บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับไวยากรณ์ของสูตรและการใช้ BIN2OCT ใน Microsoft Excel
คำอธิบาย
แปลงเลขฐานสองเป็นเลขฐานแปด
ไวยากรณ์
BIN2OCT(number, [places])
ไวยากรณ์ของฟังก์ชัน BIN2OCT มีอาร์กิวเมนต์ดังนี้
-
หมายเลข จำเป็น เลขฐานสองที่คุณต้องการแปลง ตัวเลขต้องมีอักขระไม่เกิน 10 ตัว (10 บิต) บิตที่มีนัยสําคัญที่สุดของตัวเลขคือบิตเครื่องหมาย ส่วนที่เหลืออีก 9 บิตคือบิตขนาด ตัวเลขติดลบจะแสดงโดยใช้สเปรดชันเติมเต็มสองตัว
-
Places ไม่จำเป็น จํานวนอักขระที่จะใช้ ถ้าละ places ไว้ BIN2OCT จะใช้จํานวนอักขระน้อยที่สุดตามที่จําเป็น Places มีประโยชน์ในการช่องว่างระหว่างค่าที่ส่งกลับด้วย 0 (ศูนย์) นําหน้า
ข้อสังเกต
-
ถ้าค่า number ไม่ใช่เลขฐานสอง หรือถ้ามีตัวเลขเกิน 10 อักขระ (10 บิต) ฟังก์ชัน BIN2OCT จะส่งกลับ #NUM! เป็นค่าความผิดพลาด
-
ถ้าค่า number เป็นลบ ฟังก์ชัน BIN2OCT จะละเว้นค่า places และส่งกลับค่าตัวเลขฐานแปดเป็นอักขระ 10 ตัว
-
ถ้าฟังก์ชัน BIN2OCT ต้องการอักขระมากกว่าที่ระบุไว้ในค่า places ฟังก์ชัน BIN2OCT จะส่งกลับ #NUM! เป็นค่าความผิดพลาด
-
ถ้า places ไม่ใช่จำนวนเต็ม จะถูกปัดเศษทิ้ง
-
ถ้า places ไม่ใช่ตัวเลข ฟังก์ชัน BIN2OCT จะส่งกลับ #VALUE! เป็นค่าความผิดพลาด
-
ถ้า places เป็นลบ ฟังก์ชัน BIN2OCT จะส่งกลับ #NUM! เป็นค่าความผิดพลาด
ตัวอย่าง
คัดลอกข้อมูลตัวอย่างในตารางต่อไปนี้ และวางในเซลล์ A1 ของเวิร์กชีต Excel ใหม่ สำหรับสูตรที่จะแสดงผลลัพธ์ ให้เลือกสูตร กด F2 แล้วกด Enter ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถปรับความกว้างของคอลัมน์เพื่อดูข้อมูลทั้งหมดได้
สูตร |
คำอธิบาย |
ผลลัพธ์ |
=BIN2OCT(1001, 3) |
แปลงเลขฐานสอง 1001 ไปเป็นเลขฐานแปดที่มีอักขระ 3 ตัว |
011 |
=BIN2OCT(1100100) |
แปลงเลขฐานสอง 1100100 ไปเป็นเลขฐานแปด |
144 |
=BIN2OCT(1111111111) |
แปลงเลขฐานสอง 1111111111 ไปเป็นเลขฐานแปด |
7777777777 |