บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับไวยากรณ์ของสูตรและการใช้ฟังก์ชัน DATEVALUE ใน Microsoft Excel
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน DATEVALUE จะแปลงวันที่ที่ถูกเก็บเป็นข้อความให้เป็นเลขลําดับที่ Excel รู้จักว่าเป็นวันที่ ตัวอย่างเช่น สูตร =DATEVALUE("1/1/2551") จะส่งกลับ 39448 ซึ่งเป็นเลขลําดับของวันที่ 1/1/2551 โปรดทราบว่า การตั้งค่าวันที่ของระบบคอมพิวเตอร์ของคุณอาจทําให้ผลลัพธ์ของฟังก์ชัน DATEVALUE แตกต่างจากตัวอย่างนี้
ฟังก์ชัน DATEVALUE จะมีประโยชน์ในกรณีที่เวิร์กชีตมีวันที่ในรูปแบบข้อความที่คุณต้องการกรอง เรียงลำดับ หรือจัดรูปแบบให้เป็นวันที่ หรือใช้ในการคำนวณวันที่
เมื่อต้องการดูเลขลําดับวันที่เป็นวันที่ คุณต้องนํารูปแบบวันที่ไปใช้กับเซลล์ ค้นหาลิงก์ไปยังข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงตัวเลขเป็นวันที่ได้ในส่วน ดูเพิ่มเติม
ไวยากรณ์
DATEVALUE(date_text)
ไวยากรณ์ของฟังก์ชัน DATEVALUE มีอาร์กิวเมนต์ดังนี้
-
Date_text จำเป็น ข้อความที่แสดงวันที่ในรูปแบบวันที่ของ Excel หรือการอ้างอิงไปยังเซลล์ที่มีข้อความที่แสดงถึงวันที่ในรูปแบบวันที่ของ Excel ตัวอย่างเช่น "30/1/2008" หรือ "30-ม.ค.-2008" คือสตริงข้อความภายในเครื่องหมายอัญปีกกาที่ใช้แทนวันที่
การใช้ระบบวันที่เริ่มต้นใน Microsoft Excel สําหรับ Windows อาร์กิวเมนต์ date_text ต้องแทนวันที่ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 1900 ถึง 31 ธันวาคม 9999 ฟังก์ชัน DATEVALUE จะส่งกลับ #VALUE! ถ้าค่าของอาร์กิวเมนต์ date_text อยู่นอกช่วงนี้
ถ้าละส่วนปีของอาร์กิวเมนต์ date_text ฟังก์ชัน DATEVALUE จะใช้ปีปัจจุบันจากนาฬิกาในคอมพิวเตอร์ของคุณ ข้อมูลเวลาในอาร์กิวเมนต์ date_text จะถูกละเว้น
ข้อสังเกต
-
Excel จะเก็บวันที่เป็นเลขลําดับต่อเนื่องเพื่อให้สามารถใช้ในการคํานวณได้ ตามค่าเริ่มต้น 1 มกราคม 1900 จะเป็นเลขลําดับ 1 และวันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นเลขลําดับ 39448 เนื่องจากเป็น 39,447 วันหลังจากวันที่ 1 มกราคม 2443
-
ฟังก์ชันส่วนใหญ่จะแปลงค่าวันที่เป็นเลขลำดับโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่าง
คัดลอกข้อมูลตัวอย่างในตารางต่อไปนี้ และวางในเซลล์ A1 ของเวิร์กชีต Excel ใหม่ สำหรับสูตรที่จะแสดงผลลัพธ์ ให้เลือกสูตร กด F2 แล้วกด Enter ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถปรับความกว้างของคอลัมน์เพื่อดูข้อมูลทั้งหมดได้
ข้อมูล |
||
---|---|---|
11 |
||
3 |
||
2011 |
||
สูตร |
คำอธิบาย |
ผลลัพธ์ |
=DATEVALUE("22/8/2554") |
เลขลำดับของวันที่ที่ใส่เป็นข้อความ |
40777 |
=DATEVALUE("22-พฤษภาคม-2554") |
เลขลำดับของวันที่ที่ใส่เป็นข้อความ |
40685 |
=DATEVALUE("20112554/02/23") |
เลขลำดับของวันที่ที่ใส่เป็นข้อความ |
40597 |
=DATEVALUE("5-ก.ค.") |
เลขลำดับของวันที่ที่ใส่เป็นข้อความ โดยใช้ระบบวันที่แบบ 1900 และถือว่านาฬิกาที่มีอยู่แล้วภายในคอมพิวเตอร์จะส่งกลับค่า 2011 เป็นปีปัจจุบัน |
39634 |
=DATEVALUE(A2 & "/" & A3 & "/" & A4) |
เลขลำดับของวันที่ที่สร้างขึ้นโดยการรวมค่าในเซลล์ A2, A3 และ A4 |
40850 |